สีเหลือง = หลักทรัพย์ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราต่อยอดได้ว่าหากตลาดหุ้นลงหนักๆ ถ้าหุ้นตัวใดไม่เปลี่ยนแปลงก็อาจตีความหมายว่า หุ้นนั้นมีความแข็งแกร่งกว่าตลาดนั่นเอง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์เพื่อนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทุกท่านยอมรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
การค้าไม่เอื้อประโยชน์ "วิกฤต"ตลาดหุ้นไทย
เพราะด้วยราคาหุ้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ทำให้การใช้ “สี” สำคัญมาก
ปริมาณหุ้นเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญในตลาดหุ้นที่สามารถสะท้อนระดับกิจกรรมของตลาดและความเชื่อมั่นของนักลงทุน เมื่อหุ้นอยู่ในระดับสูงความต้องการซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดมีการซื้อขายกันอย่างคึกคักและมีความตั้งใจของนักลงทุนการค้าและความเชื่อมั่นของตลาดในแง่ดี ในทางตรงกันข้าม เมื่อมีหุ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดซื้อขายไม่คึกคักนักลงทุนความเต็มใจในการซื้อขายลดลง ความเชื่อมั่นของตลาดมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้น
เปิดใจคุย "ธรณ์" วิกฤตปะการังฟอกขาว ในวันใต้ท้องทะเลไทยเดือด
วิธีเอาตัวรอดนั้นมีมากมาย แต่เราจะสรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ดังนี้
สีเขียว = หลักทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยจะมีการไล่เฉดสีจากเขียวอ่อนไปจนเขียวเข้ม ตีความหมายได้ว่าสีอ่อนจะมี % การเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าสีเข้มนั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ แม้แต่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากจีน ก็ใช้ทั้งสองสีนี้ในทำนองเดียวกันกับตลาดหุ้นจีน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
– เมื่อจบวัน ราคาลงต่ำกว่าตอนเปิด แท่งเทียนจะเป็นสีแดง
กรมอุตุ ประกาศเตือนน้ำท่วม ช่วงปลายเดือน ฝนเพิ่มขึ้น มรสุมเข้า
ทำไม ‘ตลาดหุ้นจีน’ ใช้ ‘สีดัชนี’ สวนกระแสโลก สีแดงแทน ‘หุ้นขึ้น’ สีเขียวแทน ‘หุ้นร่วง’
รายการข่าวรายการออนไลน์เด็กและเยาวชนสุขภาพ find here อาหาร ท่องเที่ยววาไรตี้ เรียลลิตี้ละคร ซีรีส์สารคดีกีฬารายการพิเศษรายการเรียงตามตัวอักษรรายการเรียงตามหมวดเพลย์ลิสต์
สำหรับที่มาที่ไปของเรื่องนี้ มาจากการที่วัฒนธรรมจีนชื่นชอบสีแดงมาก มองว่า “สีแดง” เป็น “สีมงคลและรุ่งเรือง” ดังจะเห็นได้จากเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานมงคลจีนล้วนประดับด้วยสีแดง ตั้งแต่เทศกาลตรุษจีน ชุดงานแต่งจีน การ์ดงานแต่ง ลูกประทัด เทียนไหว้เจ้า โคมไฟจีน ประตูวัง พระตำหนักจีน ฯลฯ ล้วนเป็นสีแดง